ห้องที่ ๑๐๘ : พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นพิชิตปรีชากร


           มารุตโอรศได้ยลยักษ ถอยเฮย
กลับกราบทูลหริรักษ์ถี่ถ้วน
ตามถ้อยที่ทศภักตรลาสั่ง เมืองเฮย
พระสั่งเลิกพลม้วนหมดเมื้อคืนสฐาน
           วงษวิรามราวนเศร้าทรวงแสน โศกเอย
ถอยล่าพลคลาแดนด่วนเร้า
ร้อยพันพ่ายเคยแคลนเคยท่าน ทนฤๅ
ถึงปัจฉิมทุกข์เข้าอาตม์สิ้นอาจสมร
           อาทรทุกข์เท่ห์ท้าวเหลือลา ลดนา
ศิรทศทับอังษาโศกส้อย
สิบภักตรเผือดพรรณราศรีซีด แสยะนอ
ทรวงระทึกตึกตึกละห้อยละเหี่ยสิ้นสมปฤดี
           แค้นคิดสุดคิดท้าวจักคิด ไฉนนอ
ชีพตกใต้มืออมิตรหมดสู้
แค้นนักพระนักสิทธิ์รู้สาตร สรรพฤๅ
เสียเล่ห์ลิงไป่รู้เท่าอ้ายดิรฉาน
           กูเองกลับโลกย์สู้ธรรมดา
รักชีพไป่รักษาชีพไว้
รู้ศึกสิเวลากลับไป่ มีนอ
ตำริห์ตราบรถไท้เทียบข้างเกยใน
           เสียงกรีดหวีดหวีดร้องปวงนา รีนา
เพราะทัศนพระอังษาเปล่าเกล้า
กลับเห็นสิเห็นอาดูรผิด ภักตรนอ
ต่างประคับประคองเข้ารับไท้ธารกร
           ทุกกรพระกอดแก้วกัลยา ไว้นา
ทุกเนตรพราวชลคลาพร่างย้อย
ทุกภักตรแนบภักตรนารีรทด รทวยเอย
ทุกโอษฐเอื้อนเล่าอ้อยอิ่งเอื้ออาดูร
          สององค์อรรคเรศทั้งกำนัล
ยินข่าวราวยินพันผ่าฟ้า
สุดทุกข์สุดทนทันพระพร่ำ จบเลย
กรีดกรีดหวีดหวีดว้าวุ่นไห้โหยครวญ
           มณโทองค์ท่าวเทิ้มทูลความ
สอึกสอื้นโอษฐปรามท่านยั้ง
พระเฮยโปรดเมียสามวันเคร่า น้อยเทอญ
ทูลยได้อิกตั้งแต่ร้องรงมโหย
           ท้าวทัดกำผัดน้องโดยมา นะนา
ความมอดใครห่อนสามาถเว้น
รักเจ้าสุดรักอาสูรสุด ใจเอย
แต่บอาจออกนอกเส้นแผกเบื้องรบิลแผน
           น้องเอ๋ยน้องแก้วพี่อย่าเนา ศัลยแม่
กรรม์ประกอบสองเราเรงแคล้ว
เลงภักตร์พี่เสียเยาว์อย่าร่ำ เปล่าเลย
ตรัสแต่เท่านั้นแล้วเพ่งน้องนางตลึง
           กระหมซมโศกแส้เสียงสนม วอนนา
ร้อยเกษเกลือกบาทบรมฦชไท้
ท้าวปลอบรอบองค์ซมโศกทับ ทวีฤๅ
แต่ค่ำคุ้งรุ่งไท้จึ่งตั้งหฤไทยคง
           แฃงพระไทยเสด็จท้องโรงธาร
สั่งมาตยเกณฑ์พลมารโกฏิ์ร้อย
จัดเปนพยุหยาตรขนานใหญ่เพียบ แผนนอ
สั่งเสร็จกลับทรงสร้อยโศกขึ้นคืนใน
           เพรีตีแต่ครั้งเดียวพล พรึบฤๅ
ต้องพิฆาฎหลายหนจึ่งพร้อม
ทวยทารละตนตนเคยออก หาญเฮย
ออกแตขลาดขยาดซ้อมแตถ้าทีหนี
          ทศศรีตริด้วยขัติย์มาณะ
แม้มาทจำม้วยมละชีพแพ้
อย่าพ่ายอย่างรูปพระพงษ์เผ่า พรหมเลย
ถวิลเสร็จกลายองค์แก้รูปท้าวราวอินทร์
           สงสินธุทรงเครื่องพร้อมเพราอลง การเฮย
ฝืนจะอาจฤๅองค์อาจได้
ซ้ำสดับศรับท์สัลยอนงในยิ่ง ห่วงนา
ซุดประทับกับนางไห้สั่งน้องคนานาง
           ปางใดเจ้าได้ล่วงเลยเกิน พี่ฤๅ
จงอโหสิเทอญอย่าข้อง
ฝ่ายพี่พี่ขอเชิญอนุชอด ออมแม่
จงอย่าจองกรรมพ้องแก่ข้าคนตาย
           ทั้งหลายฟังถ้อยท่านเพียงขาด ใจนา
อรรคเรศเกษเกลือกบาทท่านอ้อน
พระเอยอย่าเสียอาตม์เสียชีพ พระเลย
อันษิดาพาร้อนอย่าไว้จงคืน
           ฟังนางนิ่งคิดด้วยอาลัย นางนอ
ตระบัตมะนะหฤไทย์ท่านรั้ง
จะส่งก็อายไกษยชีพประเสริฐ กว่านา
ถวิลศักดิ์หักจิตรยั้งโศกได้ไคลคลา
           ปองคณานาเรศสิ้นเกรงผิด
พร้อมหฤไทย์กันติดท่านเต้า
ถึงทันที่เกยสถิตย์จอมราพน์
ต่างต่างวางวิ่งเข้ากอดเบื้องบาทสัลย์
           มณโทร้องโอ้พระจอมใจ เมียเอย
ไฉนพระเสียเมียไปเปล่าม้อย
สามสนมว่าพระไทรโพธิร่ม เกษพ่อ
ไฉนพระละข้าด้วยปราศน้ำกรุณา
          อสุราองค์แอบใกล้มเหษี สรวลนอ
อย่าแม่อายเสนีอย่าร้อง
ม้วยพี่พิเภกทีจะสืบ พงษ์แม่
อุส่าห์ฝากองค์น้องจะได้ดำรงค์ตน
           สั่งเสร็จขึ้นรถไท้ขับพล คลานา
ฝูงราษฎ์แน่นคอยยลท่านเต้า
อาลัยท่านทุกตนชลหลั่ง ภักตร์นา
ท้าวก็แสนสุดเศ้ราโศกเอื้ออาลัย
           ออกนอกนัคเรศท้าวแลหลัง
ถวิลทเวศถึงวังเปล่าร้าง
วาบว้าหฤไทยประทังสติไป่ ทรงเลย
ตลึงพระองค์แขงค้างเนตรน้ำนองแล
           เห็นสวนหวนใคร่ไคล้ษีดา อีกนา
สั่งจุ่งสะใจคราสุดท้าย
ไว้ฝ่าฝากรามาเมื่อมอด เถิดฤๅ
นึกนักผักลิงย้ายคิดทิ้งถวิลจร
           พลากรเคยเกริกกร้าวเกริ่นเสียง
สงบสงัดสำเนียงเงียบชื้อ
ตราบถึงที่ยุทธเพียงทัพภูต พรายนา
สั่งโห่จำโห่อื้ออ่อนไร้เสียงหาญ
           นฤบาลราเมศทั้งอนุชา
เสด็จออกพระพลาพานเรศเฝ้า
สดับศับท์ทราบอสุรามามอด ม้วยฤๅ
สั่งทัพสรรพเสด็จเต้าต่อล้างดัษกร
           พานรพานเรศรู้คราวสุด ศึกฤๅ
ไป่พักเร่งพลันรุดรีบผ้าย
เสียงหาญโห่อึงอุดเอิกยิ่ง ก่อนนา
ถึงสั่งยั้งทัพท้ายทุ่งท้องสนามไชย

จบห้องที่ ๑๐๘

  เนื้อความกล่าวถึงหนุมานกลับไปทูลความพระรามโดยครบถ้วน พระรามจึงสั่งให้ยกทัพกลับ ฝ่ายทศกัณฐ์ทุกข์ระทมและคิดแค้นฤษีที่เสียรู้หนุมาน ตนเองทำสิ่งที่ทวนธรรมดาโลก ทั้ง ๆ ที่รักชีวิตแต่กลับไม่รักษาชีวิตเมื่อคิดได้ก็สายเสียแล้ว เมื่อเข้าตำหนัก บรรดานางในทั้งหลายต่างหวีดร้องเพราะเห็นไปว่าทศกัณฐ์เศียรขาด เมื่อมองอีกครั้งก็เห็นเศียร แต่พระพักตร์เศร้าหมอง ฝ่ายนางมณโฑทูลขอให้ทศกัณฐ์รอเวลาออกรบอีก ๓ วัน แต่ทศกัณฐ์ว่าเมื่อลั่นวาจาจะออกรบแล้วก็ไม่เปลี่ยนใจ จึงสั่งจัดทัพใหญ่ แต่กว่าจะครบจำนวนต้องเกณฑ์กันหลายครั้ง บรรดาทหารที่เคยฮึกเหิมในการรบก็กลับขลาดกลัว ทศกัณฐ์รำพึงว่าหากจะตายก็จะไม่ตายในรูปของพงศ์พรหม จึงแปลงรูปให้เหมือนพระอินทร์ ครั้นยกทัพออกนอกเมือง เสียงกองทัพที่เคยกึกก้องก็เงียบงัน เมื่อถึงสนามรบ สั่งให้ทหารโห่ เสียงโห่ก็ไร้ความฮึกเหิม ฝ่ายพระรามเมื่อได้ยินเสียงกองทัพยักษ์ก็ยกมาที่สนามรบ

ที่ถูกต้องน่าจะเป็น “ออกแต่ขลาดขยาดซ้อม แต่ถ้าทีหนี”
ที่ถูกต้องน่าจะเป็น “เปล่าม้วย”